ไดแอค ( Diac )
ไดแอก (Diac) หรือจะเรียกว่า ไดโอด-แอก (Diode - AC) เป็นอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำประเภทไธริสเตอร์ เช่นเดียวกับ
SCR และไตรแอก เป็นอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ที่ถูกออกแบบให้มีการนำกระแสได้ 2 ทิศทางที่แรงดันค่าหนึ่ง
โดยรูปแบบโครงสร้างจะเป็นสาร P-N-P 3 ชั้น 2 รอยต่อเช่นเดียวกับทรานซิสเตอร์ (Transistor) ดังแสดงในรูปที่
1 แต่จะแตกต่างจากทรานซิสเตอร์ตรงที่ความเข้มในการโด๊ป ( Dope
) สารเป็นผลทำให้รอยต่อทั้งสองของไดแอกเหมือนกันจึงทำให้มีคุณสมบัติเป็นสวิตซ์
(Switch ) ได้ 2 ทาง ค่าแรงดัน (Voltage
) ที่จะทำให้ไดแอกเริ่มนำกระแสได้ อยู่ในช่วง 29-30 V. โครงสร้างและสัญลักษณ์ของไดแอกแสดงดังรูปที่ 1
รูปที่ 1 โครงสร้างและสัญลักษณ์ของไดแอก
โครงสร้างไดแอก (Diac) เป็นอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำมี 3
ตอนใหญ่ชนิดสาร PNP และยังประกอบด้วยสารกึ่งตัวนำ 2 ตอนย่อยชนิด N ต่อร่วมในสารกึ่งตัวนำชนิด P ทั้ง 2 ตอนด้านนอก มีขาต่อออกมาใช้งานเพียง 2 ขา แต่ละขาที่ต่อใช้งานจะต่อร่วมกับสารกึ่งตัวนำทั้งชนิด N และชนิด P จึงทำให้ไดแอคสามารถทำงานได้ทั้งแรงดันไฟบวกและแรงดันไฟลบ
ขาแอโนด 1 (A1) เรียกว่า ขาเทอมินอล 1 (Main Terminal
1) ใช้ตัวย่อ MT1 และขาแอโนด 2 (A2) เรียกว่า ขาเทอมินอล 2 (Main Terminal 2) ใช้ตัวย่อ MT2 แต่ละขาสามารถต่อสลับกันได้
สัญลักษณ์ของไดแอค ( Diac )
รูปที่ 2 โครงสร้างและสัญลักษณ์ของไดแอก
การทำงานของไดแอค ( Diac
)
ไดแอคนำกระแสได้สองทิศทางโดยจะอาศัยช่วงแรงดันพังทลาย
(Break Over Voltage) เป็นส่วนของการทำงาน ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะ ดังนี้
ลักษณะที่ 1 ป้อนแรงดันบวก (+) เข้าที่ขา A1 และแรงดันลบ (-) เข้าที่ขา A2
ลักษณะที่ 2 ป้อนแรงดันลบ (-) เข้าที่ขา A1 และแรงดันบวก (+) เข้าที่ขา A2
กราฟลักษณะสมบัติของไดแอก (Diac)
เงื่อนไขการนำกระแส และการหยุดนำกระแส
1. ไดแอคจะนำกระแสเมื่อได้รับแรงดันถึงจุดพังทลาย (Break
Over Voltage ; UBR)
2. เมื่อไดแอคนำกระแสความต้านทานภายในไดแอคจะลดลงเนื่องจากรอยต่อ
PN แคบลงทำให้แรงดันตกคร่อมไดแอคลดลง
3. ไดแอคจะหยุดนำกระแส เมื่อกระแสไหลผ่านไดแอค มีค่าต่ำกว่ากระแสโฮลดิ้ง (Holding
Current ; IH)
ไดแอก ถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นอุปกรณ์จำพวกตัวกระตุ้น
(Trigger)
นิยมนำไปใช้งานร่วมกับไตรแอกโดยต่อรวมกับขาเกตของไตรแอก
ทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์กระตุ้นการทำงาน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น